วันจันทร์ที่ 13 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

แรม RAM

หน่วยความจำ (Memory) เป็นส่วนประกอบสำคัญในระบบคอมพิวเตอร์ ทำหน้าที่ จัดเก็บหรือบันทึกข้อมูล/คำสั่งต่างๆที่ใช้ประมวลผล เราสามารถจำแนกออกตามลักษณะการใช้งานได้ 2 ประเภท คือ หน่วยความจำหลัก หน่วยความจำสำรอง
หน่วยความจำหลัก (Main Memory)
เป็นส่วนประกอบสำคัญที่ต้องทำงานร่วมกับซีพียูอย่างใกล้ชิดตลอดเวลา สามารถแบ่งออกตามสภาพการใช้งานได้ 2 ชนิด คือ

• หน่วยความจำถาวร หรือ ROM (Read -only Memory)
ในยุคแรกๆจะเป็นพวกที่เก็บบันทึกข้อมูลเอาไว้ตายตัวแก้ไขไม่ได้ และข้อมูลที่ถูกเก็บไว้จะคงอยู่แม้ไม่มีกระแสไฟฟ้ามาเลี้ยงวงจร แต่ปัจจุบัน ถูกพัฒนาให้สามารถลบหรือแก้ไขข้อมูลที่อยู่ภายใน บันทึกข้อมูลลงไปใหม่ได้ไม่ยาก

• หน่วยความจำชั่วคราว หรือ RAM (Random Access Memory)
ทำหน้าที่เปรียบเสมือนเป็นสมุดบันทึกเล่มใหญ่ที่ซีพียูใช้ทำงาน แต่หากปิดเครื่อง หรือไฟฟ้าเกิดดับขึ้นมา ข้อมูลต่างๆก็จะถูกลบทิ้งหรือสูญหายไปหมด

หน่วยความจำสำรอง (Secondary Memory)
คือ อุปกรณ์ต่างๆที่ใช้สำหรับจัดเก็บ หรือสำรองข้อมูลเก็บไว้ได้ โดยไม่จำเป้นต้องใช้กระแสไฟฟ้ามาหล่อเลี้ยงอยู่ตลอดเวลา ยกตัวอย่างเช่น ฮาร์ดดิสก์ แผ่น CD/DVD เป็นต้น

ประเภทของแรม (RAM)
โดยทั่วไปสารถแบ่งออกได้เป็น 2 ประเภทใหญ่ๆ คือ

• Static RAM (SRAM) มีความเร็วในการทำงานสูงกว่า DRAM มาก แต่ไม่สามรถทำให้มีขนาดความจุได้ เนื่องจากมีราคาแพงและกินกระแสไฟมากจนทำให้เกิดความร้อนสูง

• Dynamic RAM (DRAM) สามารถเก็บข้อมูลไว้ได้ตลอดเวลาตราบเท่าที่ยังมีกระแสไฟคอยเลี้ยงวงจรอยู่ มีราคาที่ถูก กิไฟน้อย และไม่ทำให้เกิดความร้อนสูง

ชนิดของแรมหรือ DRAM
DARM ที่นำมาใช้ทำเป็นแผงหน่วยความจำหลักของระบบชนิดต่างๆ ทำงานแบบเดียวกันคือ เป็นแบบ Synchronous มีการพัฒนาให้มีความเร็วสูงขึ้นเรื่อยๆ ดังนี้

SDRAM (Synchronous)
มีจำนวนขาทั้งสิ้น 168 ขา ใช้แรงดันไฟ 3.3โวลต์ ความเร็วบัสมีทั้ง 66 MHz, 100 MHz และ133MHz

DDR SDRAM (Double Data Rate SDRAM)
มีจำนวนขาทั้งสิ้น 184 ขา ใช้แรงดันไฟ 2.โวลต์ มีความจุสูงสุด 1 GB ต่อแผงความเร็วบัสมีให้เลือกตั้งแต่ 133 MHz (DDR-266) ไปจนถึง 350MHz (DDR-700)แต่ปัจจุบันหมดความนิยมไปแล้ว

DDR2 SDRAM
เป็นหน่วยความจำที่ถูกนำมาใช้งานอย่างแพร่หลายในปัจจุบัน มีร่องบากบริเวณแนวขาสัญญาณ 1 ร่อง และมีจำนวนขา 240ขา ใช้แรงดันไฟเพียง 1.8โวลต์ รองรับความจุสูงสุดได้มากถึง 4GB ความเร็วบัสตั้งแต่ 200 MHz (DDR2-400) ไปจนถึง 533 MHz (DDR2-1066)

DDR3 SDRAM
มีจำนวนขา 240 ขา รองรับความจุสูงสุดได้มากถึง16 GB นอกจากจะใช้แรงดันไฟลดลงเหลือเพียง 1.5 โวลต์แล้ว ยังทำงานด้วยความถี่สัญญาณนาฬิกาที่สูงขึ้นกว่าเดิมคือ เริ่มต้นที่ 400 MHz หรือคิดเป็นความเร็วบัสที่ 800 MHz effective ในรุ่น DDR3-800 หรือ PC3-6400 จนถึง 800 MHz หรือคิดเป็นความเร็วที่ 1600 MHz effective ในรุ่น DDR3-1600 หรือ PC3-12800 และมีการปรับปรุงโครงสร้างภายในโดยขยายช่องสัญญาณการรับส่งข้อมูลเป็น 8 bits ซึ่งเป็นเหตุผลที่ทำให้ความถี่สัญญาณนาฬิกาเพิ่มสูงขึ้นได้

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น